ที่มา www.thaiware.com

ก The Bell สื่อชื่อดังของเกาหลีว่า เรือธงรุ่นใหม่ของ Samsung อย่าง Galaxy S10 นั้น จะมีตัวสแกนลายนิ้วมืออยู่บนหน้าจอแสดงผล (In-display fingerprint) รวมทั้งระบบจดจำใบหน้า (3D Facial recognition)

ด้วยเหตุที่ว่า บริษัท Samsung ไม่ได้มีการติดต่อกับซัพพลายเออร์ในการจัดหาเครื่องสแกนม่านตา (Iris scanners) จึงทำให้เข้าใจได้ว่า Samsung จะนำระบบจดจำใบหน้ามาใช้บน Galaxy S10 แทน โดยร่วมมือกับ Mantis Vision ในการพัฒนาอัลกอริทึมสำหรับการจดจำใบหน้าแบบ 3 มิติ

ก็เป็นอะไรที่สอดคล้องกันดี กับกรณีที่ Apple ได้เปิดตัวระบบดังกล่าวไปในปีที่ผ่านมาบน iPhone X ซึ่ง Samsung เองก็คงต้องรีบตาม Apple ให้ทันในจุดนี้

ขณะที่เครื่องสแกนลายนิ้วมือเอง ก็จะมีการย้ายจากจุดเดิมที่อยู่ตรงบริเวณด้านหลังตัวเครื่อง มาไว้บนหน้าจอแสดงผลแทน ซึ่งมันจะทำให้การปลดล็อกมือถือทำได้สะดวกกว่าเดิมมาก โดยเฉพาะผู้ใช้ที่มือเล็กหรือถนัดซ้าย การต้องสแกนนิ้วมือจากด้านหลังตัวเครื่องมันช่างไม่สะดวกเอาเสียเลย

นอกจากนี้ ยังมีรายงานอีกว่า Samsung Galaxy S10 นั้นจะมีหน้าจอขนาด 5.8 นิ้ว ส่วนใน Galaxy S10 Plus จะอยู่ที่ 6.2 นิ้ว ซึ่งก็สอดคล้องกับขนาดของ S9 และ S9 Plus ในปัจจุบัน

ในขณะที่บางสื่อกลับบอกว่า Galaxy S10 นั้นจะแบ่งเป็น 3 โมเดล คือ ขนาด 5.8 นิ้ว 2 รุ่น และขนาด 6.2 นิ้ว อีก 1 รุ่น โดยแต่ละโมเดลจะแตกต่างกันที่จำนวนกล้องหลัง ซึ่งจะมีตั้งแต่ 1 และ 2 ตัว ในรุ่นขนาด 5.8 นิ้ว และกล้อง 3 ตัว ในรุ่นขนาด 6.2 นิ้ว (ยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ)
 ที่มา https://m.thaiware.com/news/13827.html

ที่มา www.it24hrs.com

true online เปิดตัวไฟเบอร์ 1 GB เล่นเน็ตแรง

true online เปิดตัวอินเตอร์เน็ต ไฟเบอร์ 1 GB ระดับ Gigabit เร็วกว่าเดิมมากกว่า 100 เท่า พร้อมใช้งานทั้งบ้าน คอนโดฯ ทั่วกรุงเทพฯ ตอบโจทย์ชีวิตยุคไทยแลนด์ 4.0 ทั้งชีวิตครอบครัว ที่ต้องการความเร็ว แรง ความกว้างขึ้น สามารถใช้งานได้เร็วพร้อมๆกัน ย้ำภาพผู้นําไฟเบอร์อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์อันดับ 1 ครอบคลุมพื้นที่มากที่สุด

true online เปิดตัวไฟเบอร์ระดับ Gigabit ภายในงาน คุณสหรัฐส์ คนองศิลป์ ผู้อํานวยการและหัวหน้าสายงานการพาณิชย์ทรูออนไลน์ และคอนเวอร์ เจนซ์ บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น ได้พูดคุยทักทายสื่อมวลชน พร้อมกล่าวว่า “กลุ่มทรูมุ่งมั่นพัฒนาเครือข่ายมาอย่างต่อเนื่อง จนก้าวมาเป็นผู้นํา อินเทอร์เน็ตบรอดแบนด์ทั้งมีสายและไร้สาย โดยเฉพาะทรูออนไลน์ที่ยังคงเป็นผู้ให้บริการอันดับหนึ่ง มี โครงข่ายไฟเบอร์บรอดแบนด์ครอบคลุมแล้วทุกจังหวัดทั่วประเทศ และล่าสุดเปิดตัว “แพ็กเกจ ทรู ไฟเบอร์ 1Gbps” ในราคาสุดคุ้ม ที่ทุกครอบครัวสามารถใช้ได้จริง ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการพัฒนานวัตกรรม เพื่อมอบคุณภาพและบริการที่เหนือกว่า รวมทั้งเพิ่มความคุ้มค่าสูงสุดตอบโจทย์ลูกค้าในยุคดิจิทัล โดยมีการใช้งานอุปกรณ์สื่อสารคนละหลายเครื่อง และชื่นชอบการดูคอนเทนต์ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นแบบ 4K หรือการสตรีมมิ่ง ทั้งยังต้องการที่จะใช้อินเทอร์เน็ตที่เร็ว แรงพร้อมกันหลายๆคนได้ที่บ้าน จึงจําเป็นที่จะต้องมีแบนด์วิธที่กว้าง ขึ้นเป็นระดับ Gigabit แต่ด้วยปัจจุบันแพ็กเกจแบนด์วิธ 1Gbps ในตลาดประเทศไทยยังมีราคาสูงประมาณ 10,000 – 20,000 บาท จึงทําให้หลายๆครอบครัวไม่สามารถเข้าถึงได้ ดังนั้น true online จึงนําเสนอแพ็กเกจแบนด์วิธ 1Gbps ของทรูออนไลน์ในครั้งนี้ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของครอบครัวยุคปัจจุบันได้เป็นอย่างดี ทั้งเรื่อง ความเร็วที่เพิ่มขึ้นมากกว่า 100 เท่า ตลอดจนความคุ้มค่าที่เลือกได้จาก 3 แพ็กเกจคอนเวอร์เจนซ์ที่ให้ลูกค้า การท่องเน็ตแรงจัดทั้งในและนอกบ้านอีกด้วย”

ที่มาhttps://www.it24hrs.com/2018/trueonline-fast-speed-internet-fiber-1gb/

ที่มา www.beartai.com

พบข้อมูลลับใน iOS 12 เผย iPad รุ่นใหม่อาจมาพร้อมกับ Face ID

นักพัฒนา Guilherme Rambo ค้นพบโค้ดใหม่ใน iOS 12 ที่เผยภาพอย่างชัดเจนว่า iPad รุ่นต่อไปนั้นอาจรองรับการใช้งาน Face ID เหมือน iPhone X ด้วย!

Rambo ได้เผยแพร่คลิปวิดีโอการใช้งานผ่าน Twitter โดยคลิปดังกล่าวนั้นแสดงหน้าต่างการตั้งค่าซึ่งมี UI ที่เหมือนกับ Face ID ของ iPhone X ไม่มีผิด

ที่มา https://www.beartai.com/news/itnews/249172

ที่มา news.thaiware.com

มีอะไรใหม่ในระบบปฏิบัติการ macOS 10.14

ฟีเจอร์ใหม่บน Mojave (macOS 10.14)

• Dark mode หน้าจอสบายตาขึ้น

Dark mode ไม่ใช่เรื่องใหม่สำหรับ macOS ที่มีให้ใช้งานตั้งแต่เวอร์ชั่น El Capitan แต่ในเวอร์ชั่นเก่า ส่วนที่ถูกปรับให้เป็น Dark mode มีเพียง menu bar และ dock เท่านั้น แต่สำหรับ Dark mode ใน Mojave แอพพลิเคชั่นต่างๆ จะถูกปรับเปลี่ยนให้เป็น Dark mode ด้วย เพียงแต่ว่า ไม่ใช่ทุกแอพฯ (โดยเฉพาะแอพฯ 3rd Party) จะรองรับ Dark mode

Dark mode บน Mojave

Dark mode บน El Capitan

โดยปกติแล้ว Dark mode จะเป็นที่นิยมสำหรับงานช่างภาพ ที่ต้องการในด้านความแม่นยำของแสงสีที่แสดงผลบนหน้าจอคอมพิวเตอร์ ซึ่งการที่ Dark mode ได้ถูกขยายไปใช้งานในส่วนๆ อื่นๆ ก็เพื่อให้ผู้ใช้งานทั่วไป สามารถใช้งานคอมพิวเตอร์ได้อย่างสบายตาขึ้น ในเวลากลางคืนหรือสภาพแวดล้อมที่มีแสงน้อย

 
อีกหนึ่งตัวอย่าง Dark mode บนโปรแกรม Xcode

• Desktop Stacks จัดการไฟล์ที่ยุ่งเหยิงบนหน้าจอ

Desktop Stacks เป็นฟีเจอร์ใหม่ที่ช่วยจัดระเบียบหน้าจอ Desktop ให้ สำหรับคนที่ชอบเก็บไฟล์ทุกอย่างไว้บนหน้าจอเดสก์ท็อปจนรกไปหมด โดยฟีเจอร์ใหม่นี้ จะทำการรวบรวมไฟล์ประเภทเดียวกัน เช่น รูปภาพ เอกสาร หนัง ฯลฯ ไว้ในกองเดียวกัน ให้เราได้เลือกค้นหาในภายหลังได้สะดวกมากขึ้น

ไฟล์ยุ่งๆ เต็มไปหมด (เราว่าแค่นี้เบาะๆ)

ไฟล์ถูกจับรวมกันแยกตามประเภท

• Dynamic Desktop ภาพพื้นหลังเปลี่ยนตามเวลา

ลูกเล่นใหม่ของ Live Wallpaper บนหน้า Desktop ที่สภาพแวดล้อมของภาพ Wallpaper จะเปลี่ยนไปตามเวลาจริง อย่างเช่นในภาพทะเลทราย (Mojave) ในตอนกลางวัน เมื่อถึงช่วงค่ำจะเปลี่ยนเป็นเวลากลางคืน ตรงนี้ยังไม่แน่ว่ารูปอื่นๆ จะสามารถใช้งานได้หรือไม่? หรือต้องเป็นรูปที่กำหนดไว้เท่านั้น

วอลเปเปอร์ Mojave เวลากลางวัน

วอลเปเปอร์ Mojave เวลากลางคืน

• Finder ใหม่

Finder ได้รับการอัพเดทใหม่ เพิ่ม Sidebar ไว้โชว์ข้อมูลด้านข้างของหน้าต่าง เมื่อเราเลือกไฟล์ต่างๆ รวมทั้งการดูพรีวิวภาพหรือไฟล์ PDFs หน้าต่างๆ โดยไม่ต้องแยกหน้าต่างเหมือนแบบเก่า หรือต้องเปิดแอพฯ อื่นเพื่อดูไฟล์ PDF รวมทั้งยังมีเครื่องมือ Quick actions ต่างๆ ให้ใช้งานที่ด้านใต้ของ Sidebar อีกด้วยอย่างเช่นการหมุนภาพ, ตั้ง Markup เป็นต้น โดยเราสามารถปรับแต่งเลือก Quick actions ที่ต้องการมาไว้ใน Sidebar ได้

• Screenshots อัพเดทใหม่

ฟีเจอร์แคปหน้าจอบน macOS ได้เพิ่มเครื่องมือหลังจากแคปหน้าจอ ให้เราสามารถครอบตัดภาพ วาดเส้น ใส่ข้อความ ฯลฯ ได้ทันที หลังจากแคปหน้าจอ รวมทั้งรองรับการอัดคลิปจากหน้าจอ (Screen capturing) ได้ด้วย หลังจากที่ก่อนหน้านี้ ต้องไปใช้งานผ่านแอพฯ Quicktime

• แอพฯ ใหม่บน macOS

มีหลายแอพฯ จากระบบปฏิบัติการ iOS ได้ถูกนำมาใช้งานบน macOS ด้วย ได้แก่ Stocks, News app, Voice memos และ Home app

• Safari อัพเดทด้านความปลอดภัยมากขึ้น

แอพฯ เบราว์เซอร์ Safari ได้เพิ่มความปลอดภัยให้กับผู้ใช้งานมากขึ้น ด้วยการบล็อคการ Tracking ข้อมูลผู้ใช้จากเว็บต่างๆ

• Mac App Store ดีไซน์ใหม่

App Store บน macOS มีการออกแบบ UI ใหม่ มีวีดีโอสำหรับพรีวิวแอพฯ ต่างๆ เล่นให้ชมอัตโนมัติ เพื่อให้ผู้ใช้ตัดสินใจในการโหลดแอพฯ ง่ายขึ้น

รวมทั้งยังมีแอพฯ ชื่อดังมากมายเข้ามาร่วมใน App Store แล้ว อย่างเช่น Office 365, Adobe Creative Cloud เป็นต้น (ก่อนหน้านี้ต้องติดตั้ง นอกตัว App Store)

• ฟีเจอร์ Continuity ถ่ายภาพจาก iPhone ประกอบงานบน macOS ได้ทันที

ขณะทำงานเอกสารต่างๆ บน Mac อย่างเช่น Presentation สามารถใช้ iPhone เป็นอุปกรณ์ถ่ายภาพด้วยฟีเจอร์ Continuity Camera เพื่อส่งภาพต่างๆ ไปประกอบในเอกสารได้ทันที

---

Mojave เปิดให้อัพเดทเมื่อไหร่?

สำหรับเวอร์ชั่น developer beta ทาง Apple ประกาศว่า จะพร้อมให้ทดลองกันในวันที่ 4 มิถุนายน (เท่ากับวันนี้เป็นต้นไป) ส่วนผู้ใช้งานทั่วไป จะสามารถดาวน์โหลดเวอร์ชั่นสมบูรณ์มาอัพเดทได้ ประมาณช่วงเดือนกันยายนหรือตุลาคมปีนี้

ที่มา https://news.thaiware.com/13611.html